วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เตรียมตัวฟังธรรมะ ครั้งสุดทาย ของศาสนานี้

>>> อรรถกถา อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอกธัมมาทิบาลี  วรรคที่ ๑ <<<
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=99


บรรดาปรินิพพาน ๓ อย่างนั้น 
                         กิเลสปรินิพพาน ได้มีที่โพธิบัลลังก์. 
                         ขันธปรินิพพาน ได้มีที่กรุงกุสินารา. 
                         ธาตุปรินิพพาน จักมีในอนาคต. 
               จักมีอย่างไร? 
               คือ ครั้งนั้น ธาตุทั้งหลายที่ไม่ได้รับสักการะและสัมมานะในที่นั้นๆ ก็ไปสู่ที่ๆ มีสักการะและสัมมานะด้วยกำลังอธิษฐานของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย. เมื่อกาลล่วงไปๆ สักการะและสัมมานะก็ไม่มีในที่ทั้งปวง. เวลาพระศาสนาเสื่อมลง พระธาตุทั้งหลายในตามพปัณณิทวีปนี้ จักประชุมกันแล้วไปสู่มหาเจดีย์ จากมหาเจดีย์ไปสู่นาคเจดีย์ แต่นั้นจักไปสู่โพธิบัลลังก์. พระธาตุทั้งหลายจากนาคพิภพบ้าง จากเทวโลกบ้าง จากพรหมโลกบ้าง จักไปสู่โพธิบัลลังก์แห่งเดียว. พระธาตุแม้ประมาณเท่าเมล็ดพันธุ์ผักกาดจักไม่หายไปในระหว่าง. 
               พระธาตุทั้งหมดจักประชุมกันที่มหาโพธิมัณฑสถานแล้ว รวมเป็นพระพุทธรูป แสดงพุทธสรีระประทับนั่งขัดสมาธิ ณ โพธิมัณฑสถานมหาปุริสลักษณะ ๓๒ อนุพยัญนะ ๘๐ พระรัศมีประมาณวาหนึ่งทั้งหมดครบบริบูรณ์ทีเดียว. 
               แต่นั้นจักกระทำปาฏิหาริย์แสดง เหมือนในวันแสดงยมกปาฏิหาริย์. ในกาลนั้น ชื่อว่าสัตว์ผู้เป็นมนุษย์ ไม่มีไปในที่นั้น. 
               ก็เทวดาในหมื่นจักรวาฬประชุมกันทั้งหมด พากันครวญคร่ำรำพันว่า วันนี้พระทสพลจะปรินิพพาน จำเดิมแต่บัดนี้ไป จักมีแต่ความมืด. 
               ลำดับนั้น เตโชธาตุลุกโพลงขึ้นจากพระสรีรธาตุ ทำให้พระสรีระนั้นถึงความหาบัญญัติมิได้. เปลวไฟที่โพลงขึ้นจากพระสรีรธาตุ พลุ่งขึ้นจนถึงพรหมโลก เมื่อพระธาตุแม้สักเท่าเมล็ดพันธุ์ผักกาดยังมีอยู่ ก็จักมีเปลวเพลิงอยู่เปลวหนึ่งเท่านั้น เมื่อพระธาตุหมดสิ้นไป เปลวเพลิงก็จักขาดหายไป. 
               พระธาตุทั้งหลายแสดงอานุภาพใหญ่อย่างนี้แล้ว ก็อันตรธานไป. 


เมื่อเป็นดังนั้น รีบรักษาศีล 5  ศีล 8  ศีล 10  หรือ ศีล227 (ของภิกษุ)   

ให้ทาน ก็ไปบังเกิดได้เช่น กัน  >>> ทาน จำแนกสวรรค์ ทั้ง 6 <<<

ไปบังเกิดในเทวโลก  อีก ไม่มาก ไม่น้อย 2500 ปี 


.................................................................
สนังกุมารสูตรที่ ๑
พระอินทร์มีพระชายาที่เป็นใหญ่ ๔ องค์ คือ พระนางสุชาดา พระนางสุธรรมา พระนางสุจิตรา และพระนางสุนันทา

บนดาวดึงส์  มีเทวศาลา ชื่อ สุธรรมา       เป็นที่แสดงธรรม ทุกวันอุโบสถ

ศาลาฟังธรรมนี้ก็อยู่บนสวรรค์ ชั้นที่ 2

สนังกุมารพรหม   มาจากพรหมอนาคามีชั้น อกนิฎฐา    นิพานในชั้นนี้


จะว่าไป  แล้ว หลังสิ้นศาสนา นี้แล้ว  ยังพอมีเวลาอีก 31,500 มหากัปป์ 

พรหมอนาคามีชั้น  อวิหา  -->  อตัปปา  -->   สุทัสสา  -->   สุทัสสี   -->   อกนิฎฐา   -->    นิพานชั้นนี้
                        ครบอายุจะไปเกิดภพที่สุงขึ้น


แต่อัธยาใส ของสัตว์ คงไม่อาจฟังพระสัทธรรม เข้าใจแล้วในการเบื้องหน้า





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น