ผู้นำทางไปสวรรค์ (6 ชั้นฟ้า)
ปิดประตู นรก (8 ชั้นดิน)
ทำนายความเสี่ยงที่เหลืออยู (นิมิตก่อนตายทั้ง 3)
>>> จิตวิญญาณ เรื่องนี้เข้มข้น ครอบคุม <<<
ศีล 5 คือ รถไฟขบวนใหญ่ นำไปสู่สวรรค์
สมาทานศีล แล้วรักษาตามกำลัง
ศีล มีกำลัง เป็น 3 ใน 8 ของ มรรคองค์ 8 จึงพาไปสวรรค์ได้สบายๆๆ
จิต เป็นประธาน
1.กุศล
2.อกุศล
3.วิปาก(การมองเห็นได้ยิน)
ดวงสีฟ้า 7 เกิดกับจิตทุกขณะ ทั้งดีและชั่ว
ดวงสีเทา 6 ประกอบแล้วแต่
ดวงสีดำ 4 โมหะ ก็ประกอบกับเรายกเว้นเวลาเจริญกุศล
< จะเปรียบเทียบกันทาน ว่ากำลังมากทำอย่างไร >
>>> ทานสูตร <<< คลิ๊กดูตรงนี้
1. ให้แล้วจะไปใช้สอย หลังตาย (เป็นทาสทาน ต่ำสุด) .....จาตุมหาราชิกา
2. การให้ทานเป็นการดี .....เทวดาชั้นดาวดึงส์
4. ให้เพราะนักบวชท่านไม่หุงหาอาหาร.........เทวดาชั้นดุสิต
5. ให้ทานเพราะจะบูชาพระอรหัตน์ ..............เทวดาชั้นนิมมานรดี
6.ให้ทานแล้วจิตใจชื่นบาน ...........เทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัสดี
ตัวอย่างเช่น
นางสุชาดา กับ สักกะเทวราช....คลิ๊กดูตรงนี้
รักษาศีล 5 เกิด เป็นอสูรกัญญา
>>> นายโจรเคราแดง youtube <<< คลิ๊กดูตรงนี้ >>>นายโจรเคราแดง อ่าน<<<
นายโจรเคราแดง พระสารีบุตร ไปโปรด สมาทาน ศีล 4 ก่อนตาย ไปเกิดเป็นเทวดา ชั้นที่1 จตุมาหาราชิกา
>>> มัฏฐกุณฑลิชาดก <<< คลิ๊กดูตรงนี้
ผู้ระลึกถึงพระศาสดา แม้ไม่อาจยกมือ ไห้วได้ ตายก็ไปเกิดบนสวรรค์ได้ ด้วยจิตเลื่อมใส่ในพระศาสดา ( จิตนี้ถึงไม่อาจดูแคลน )
......แล้วคิดดูเถิด เราท่านทั้งหลาย สมาทานทุกวันศีล จะเวียนเกิดเวียนตาในเทวดภูมิ สักกี่ชาติกัน น่าคิด .........
อนุสติ 10 ในสมถะ 40
- พุทธานุสสติ ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
- ธัมมานุสสติ ระลึกถึงพระธรรมเป็นมารมณ์
- สังฆนุสสติ ระลึกถึงคุณพระสงฆ์เป็นอารมณ์
- สีลานุสสติ ระลึกถึงศีลเป็นอารมณ์
- จาคานุสสติ ระลึกถึงผลของทานการบริจาคเป็นอารมณ์
- เทวตานุสสติ ระลึกถึงความดีของเทวดาเป็นอารมณ์
(อนุสสติทั้ง 6 กองนี้ เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในสัทธาจริต) - มรณานุสสติ ระลึกถึงความตายเป็นอารมณ์
- อุปสมานุสสติ ระลึกถึงความสุขในนิพพานเป็นอารมณ์
(อนุสสติ 2 กองนี้ เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในพุทธจริต) - กายคตานุสสติ เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในราคจริต
- อานาปานานุสสติ เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในโมหะและจริต
บุญกิริยาวัตถุ 10 หมายถึง ที่ตั้งแห่งการกระทำความดี ๑๐ อย่าง หมายถึง กุศลจิตที่มีกำลังจนทำให้มีการกระทำออกมาทางกาย วาจาหรือทางใจ ได้แก่ ...
๑.ทานมัย บุญสำเร็จจากการให้วัตถุเพื่อสงเคราะห์หรือบูชาแก่ผู้อื่น
๒.ศีลมัย บุญสำเร็จจากการงดเว้นจากทุจริต หรือประพฤติสุจริตทางกาย วาจา
๓.ภาวนามัย บุญสำเร็จจากการอบรมจิตให้สงบจากกิเลส (สมถภาวนา) และการอบรมปัญญาเพื่อละกิเลสทั้งปวง(วิปัสสนาภาวนา)
๔.อปจายนมัย บุญสำเร็จจากการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน
๕.เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จจากการขวนขวายบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น
๖.ปัตติทานมัย บุญสำเร็จจากการให้ส่วนบุญที่ได้บำเพ็ญมาแล้ว
๗.ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จจากการยินดีในกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำแล้ว
๘.ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จจากการฟังพระสัทธรรม
๙.ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จจากการแสดงพระสัทธรรม
๑๐.ทิฏฐุชุกรรม การกระทำความเห็นให้ตรงถูกต้องตามความเป็นจริง
๒.ศีลมัย บุญสำเร็จจากการงดเว้นจากทุจริต หรือประพฤติสุจริตทางกาย วาจา
๓.ภาวนามัย บุญสำเร็จจากการอบรมจิตให้สงบจากกิเลส (สมถภาวนา) และการอบรมปัญญาเพื่อละกิเลสทั้งปวง(วิปัสสนาภาวนา)
๔.อปจายนมัย บุญสำเร็จจากการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน
๕.เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จจากการขวนขวายบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น
๖.ปัตติทานมัย บุญสำเร็จจากการให้ส่วนบุญที่ได้บำเพ็ญมาแล้ว
๗.ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จจากการยินดีในกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำแล้ว
๘.ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จจากการฟังพระสัทธรรม
๙.ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จจากการแสดงพระสัทธรรม
๑๐.ทิฏฐุชุกรรม การกระทำความเห็นให้ตรงถูกต้องตามความเป็นจริง
นิวรณ์ 5 จะก่อก่วนใจเราท่าน ให้ ไม่มีเรียวแรงพอที่อยากรักษาศีล (เรียกว่า สัมปยุติ ประกอบ สสังขาริก คนชักชวน)
.........นิวรณ์5 เป็นเขต แบ่งระหว่าง เทวดา กับ พรหม
.......พรหม หรือ ผู้บรรลุณาณ ข่มนิวรณ์ 5 จิตมีกำลัง ในวิปัสสนา ยังสงเคราะห์ เป็น ปฐมณาณ ด้วย
.....พรหมโลก มี 16 ชั้น พรหมธรรมดา 11 ชั้น อนาคามีพรหม 5 ชั้น ก่อนนิพานในชั้นที่ 5
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น