วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2562

กำแพง 4 ด้าน จิตเป็นไปในเบื้องหน้า (กำลัง เขียนอยู่)


1. ด้านหลัง ต้อง เป็น ศีล

2. ทางซ้าย ต้องเป็นความรู้ในการเจริญ วิปัสสนา และ  สาระรอบรู้ทั้งหลาย ทั้งดีและชั่ว

3. ทางขวา  สัมมปธาน 4    หยุดอกุศล และไม่ให้เกิดอีก   ทำให้กุศลเกิด  ตั้งได้นาน

4. ด้านหน้า    จิต   (มีอารมณ์ ตลอดเวลา )

               กำหนดรู้ (สติปัฐาน 4)
               ควรละ   (โลภะ 8)     ทำสัมปธาน 4   นับเป็นขณะ  ถ้าหยุดอกุศลได้  ภพชั่วก็ไม่ได้เกิด 1 ภพ
               ทำให้แจ้ง  (นิพาน)   มัคค   ผล
                ควรเจริญ  (มรรค 8)


1. อนุปุพิกถา5   ทาน   ศีล   สวรรค์   โทษของกาม   การออกบวช

ศีล   ต้องกำหนดได้ ว่า ล่วงเพราะเหตุ ใดได้บ้าง  ถึง จะมนสิการ ได้ดี

>>ศีล<<  (อ่านเพิ่มเติม)


.......................................................

2. กรรมฐาน   หรือ วิปัสสนากรรมฐาน    สติปัฎฐาน 4    ที่ตั้งการงานทางใจ

ดำรงในปัจจุบันขณะ     อาศัย ปรมัตถ 4   รูป   จิต   เจตสิก  (นิพาน)

รูป หยาบสุด

จิต   รับรู้อารมณ์

เจตสิก ประกอบตลอดเดวลา   


ถึงจะแยกรูปและนาม    เป็นเบื้องต้น นำไปสู่      ความจริงหน้ากลัว ของ ของสิ่งรูปจะสลายไปเพราะอุตุทั้ง 4  การเกิด   กรรม   สวรรค์  และ  นรก     ความหวาดหวัน  ก็ย่อมปรากฎ ขึ้น  ในตอนท้ายๆ

เมื่อเห็นเป็นภัย หาทางหนี    แต่หนี ไม่พ้น  ก็จำใจต้องยอมรับ 




3. สัมมปธาน 4
   การหยุด อกุศล ฝ่ายชั่ว ไม่ให้เกิดขึ้นในใจ       สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วให้หมดไปโดยเร็ว

   ทำการกุศลให้เกิด ขึ้น    สิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้ตั้งมั่นอยู่นานๆๆๆ

   พูดง่าย แต่ทำยาก   สิ่งเหล่านี้เกิดในใจ  อาจจะเรียกว่า ควบคุมไม่ได้ 

   -1  ต้องรู้ก่อนว่า สิ่งใดคือ ความคิดดี และ ความคิดชั่ว
         - ฝายดีทำแล้วอิ่มเอิบใจ ไม่รู้สึกเสียใจในภายหลัง    นำไปสู่สวรรค์
        - ผ่ายชั่ว ทำแล้วนึกเสียใจในภายหลัง ลุ่มร้อน  นำไปสู่ นรก อบายภูมิ


   -2 ต้องมนสิการ จะทำกุศล  จะ ละอกุศล ทั้งเกิดก็จะให้หมดไปโดยเลย และไม่ทำให้เกิดอีก
             >>  มนสิการเจตสิก<<   ประกอบกับจิตทุกดวง   เอาแล้วไง 
           










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น